สรรพคุณเลือดจระเข้

สรรพคุณเลือดจระเข้

  • เลือดจระเข้มีสาร IGF1 ที่มีลักษณะคล้ายอินซูลิน ทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำตาลในเลือดเป็นพลังงาน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และช่วยให้แผลจากเบาหวานหายเร็วขึ้น
  • เลือดจระเข้มีส่วนช่วยในระบบเลือดและการไหลเวียนของเลือด ทำให้สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายมากขึ้น บรรเทาอาการหอบ เหนื่อย และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดีขึ้น
  • เลือดจระเข้มีส่วนช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด โดยไม่มีผลข้างเคียงไม่สะสมในร่างกาย ซึ่งเมื่อเทียบกับธาตุเหล็กสังเคราะห์
  • การรับประทานเลือดจระเข้จะช่วยเพิ่มเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด
    เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง การฉายรังสี และการทำเคมีบำบัด มีผลทำให้เม็ดเลือด และเกล็ดเลือด ของผู้ป่วยถูกทำลาย การทานเลือดจระเข้ช่วยทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น มีผลการตรวจเลือดอยู่ในระดับที่สามารถทำการฉายรังสี และการทำเคมีบำบัดต่อได้ครบขั้นตอน
  • เลือดจระเข้ช่วยให้การนำออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น จะทำให้นักกีฬาเหนื่อยยาก มีพละกำลังมากขึ้น โดยไม่ถือเป็นยาโด๊บที่ผิดกฎสากล และเป็นที่นิยมในกลุ่มกีฬาจีน
  • เลือดจระเข้มีส่วนช่วยเสริมให้สเปิร์มของผู้ชายแข็งแรงขึ้น และเสริมให้ไข่ของผู้หญิงแข็งแรงขึ้น ทำให้โอกาสที่จะปฏิสนธิมีเพิ่มมากขึ้น
  • เลือดจระเข้มีคุณภาพสำหรับทุกเพศทุกวัย สามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่องและจะถูกขับออกตามธรรมชาติหากร่างกายดูดซึมไม่หมด
  • ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และ การดำเนินชีวิตในประจำวันที่ถูกต้อง
  • เลือดจระเข้ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย HIV ผู้ป่วยที่ได้รับประทานเลือดจระเข้ค่า CD4 จะสูงขึ้น ไม่ติดเชื้อง่าย ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  • เลือดจระเข้วินน์ เหมาะกับทุกเพศ สามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่อง หากร่างกายดูดซึมไม่หมดจะถูกขับออกตามธรรมชาติ

เลือดจระเข้ ม.เกษตร งานวิจัย รศ.ดร.วิน เชยชมศรี กับ รศ.ดร.จินดาวรรณ สิรินทวิเนติ

การสั่งซื้อเลือดจระเข้วินน์

กว่าจะมาเป็นอาหารเสริมเลือดจระเข้

กว่าจะมาเป็นอาหารเสริมเลือดจระเข้ เดิมที่ ตั้งแต่ 2542 รศ.ดร.วิน เชยชมศรี และ รศ.ดร.จินดาวรรณ สิรันทวิเนติ เริ่มศึกษาเลือดจระเข้เนื่องจากสงสัย ว่าสมัยนั้นฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ได้แจกเลือดจระเข้สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็ง มันช่วยอะไร จึงทำการวิจัยเรื่องเลือดของจระเข้  ระหว่างทำการศึกษา สังเกตว่าจระเข้กัดกันแล้วเกิดบาดแผลฉกรรจ์ ซึ่งจระเข้แช่อยู่ในน้ำแต่แผลกลับไม่เน่าและสามารถใช้เวลาไม่เกิน 1 อาทิตย์ ในการสมานบาดแผล แสดงให้เห็นว่าระบบภูมิคุ้มกันของจระเข้ดีมาก จากการศึกษาพบว่าเลือดจระเข้นั้นมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะในเลือดจระเข้มีองค์ประกอบหลายอย่างได้แก่โปรตีนและเกลือแร่หลายชนิด ทั้งแคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม วิตามิน เอ บี1 บี2 สมัยก่อนนั้นจระเข้ก็จะเอาไปทำหนัง ขายเนื้อจระเข้ แต่ภูมิปัญญาของนักวิจัยไทยไม่แพ้ใครในโลกได้ คิดค้นเพิ่มมูลค่าเลือดจระเข้ ซึ่งเป็นผลงานของ รศ.ดร.วิน เชยชมศรี และ รศ.ดร.จินดาวรรณ สิรันทวิเนติ อาจารย์ภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาขยายผลในเชิงพาณิชย์ ให้ บริษัท ซีเอสจี โปรดักส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ควบคุมโดย รศ.ดร.วิน เชยชมศรี ในการผลิตแคปซูลเลือดจระเข้ฟรีสดราย สำหรับการนำเลือดจระเข้มาทำเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ขั้นตอนสำคัญอยู่ที่การเจาะเลือดต้องให้มีความสะอาดมากที่สุดโดยใช้อุปกรณ์เจาะเลือดที่ได้คิดค้นขึ้นเอง จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ และทำให้เลือดระเหิดแห้งนำมาบดให้ละเอียดก่อนที่จะบรรจุใส่แคปซูลวิเคราะห์ด้านคุณภาพ และตรวจสอบเชื้อจุลินทรีย์เพื่อไม่ให้มีการปนเปื้อน โดยทุกขั้นตอนจะต้องปฏิบัติในห้องปลอดเชื้อเท่านั้น

ปัจจุบันเลือดจระเข้ฟรีซดราย ได้พัฒนากระบวนการผลิตเพื่อให้ได้สาร IGF1 เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเรียกกระบวนการสกัดเลือดจระเข้นี้ว่า ฮีโมไลเสท ภายใต้แบรนด์ เลือดจระเข้วินน์ ซึ่งมี 2 ขนาด คือ เลือดจระเข้วินน์ขวดใหญ่ 100 แคปซูล กับ เลือดจระเข้วินน์ขวดเล็ก 30 แคปซูล 

กว่าจะมาเป็นอาหารเสริมเลือดจระเข้ นั้นต้องใช้เวลา ความรู้ ความอดทนอย่างสูง ขอขอบพระคุณ ทีมงานวิจัย ที่ช่วยให้เพิ่มมูลค่าของเลือดจระเข้จากที่ไม่มีใครต้องการ และยังเป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกายผู้ป่วยได้อีกด้วย

งานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา

เลือดจระเข้ได้ออกงาน มหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (IP Fair 2017) ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเพื่อชีวิต  ที่ดีกว่า (Innovation for Life&Better Future)” เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs Start up นักประดิษฐ์ นักวิจัย โดยภายในงานได้จัดแสดงผลงาน และจำหน่ายสินค้าทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรมอย่างเช่นเลือดจระเข้ จากนักวิจัย อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ในงานยังมีการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) การให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา และจัดสัมมนาทางวิชาการในหัวข้อต่างๆ ระหว่างวันที่ 4 – 7 พฤษภาคม 2560 ณ ฮอลล์ 103 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

เลือดจระเข้ยี่ห้อวินน์ ได้จัดโปรโมชั่น และ ได้เปิดบูธในงาน ซึ่งทางทีมงานเลือดจระเข้วินน์ ขอขอบคุณลูกค้า ผู้สนใจผลิตภัณฑ์ที่มาจากงานวิจัยของนักวิจัยคนไทยเอง ในงานมี สินค้า “สุดยอดงานนวัตกรรม” มากมาย ทั้งในประเทศและอีกหลากหลายประเทศ  อีกทั้งการให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา สมาคมส่งเสริมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม และสร้างความแข็งแกร่งทางการค้า

test

นักวิจัยเลือดจระเข้

เลือดจระเข้วินน์เป็นอีกผลงานหนึ่งของ รศ.ดร.วิน เชยชมศรี กับ รศ.ดร.จินดาวรรณ สิรันทวิเนติ จากอาจารย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิจัยมานานกว่า 20 ปี วิจัยเลือดจระเข้ระเหิดแห้งจนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เลือดจระเข้แคปซูล ตราวินน์ Wynn การผลิตที่มีคุณภาพสูงหลายขั้นตอนและยังคงมีสารสำคัญครบถ้วนมากที่สุด

เลือดจระเข้แคปซูลวินน์ ผ่านกระวนพาสเจอร์ไรส์ และฟรีซดราย โดยนำเลือดจระเข้ผ่านกระบวนพาสเจอร์ไรส์โดยไม่เติมสารใดๆ เลือดจระเข้ก็ยังคงคุณภาพของเลือดจระเข้ด้วยกระบวนการฟรีซดราย โดยปราศจากเชื้อโรค แบคทีเรีย และสารปนเปื้อน

นวัตกรรมใหม่ในการเก็บเลือดจระเข้ให้สะอาด จากเดิมสมัยก่อนการทำเลือดจระเข้แห้งนั้น ต้องตากแดดหลายวันกว่าเลือดจะจับกันเป็นก้อนแห้ง จากนั้นจึงนำมาบดให้เป็นผงด้วยโกร่งหรือครก ต่อมามีการนำไปอบแห้งด้วยความร้อนและใช้เครื่องบด ซึ่งกรรมวิธีนี้จะได้เลือดผลแห้งที่ไม่สะอาดเลย ยังนำไปอบด้วยความร้อนยิ่งที่ให้โปรตีนที่มีอยู่มากในเลือดจระเข้ต้องสูญเสียไปอีก

กระบวนการผลิตเลือดจระเข้แห้งที่คงคุณภาพโดยทีมงานวิจัย อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เมื่อเราได้เลือดจระเข้ที่เป็นวัตถุดิบต้นทางที่มีความสะอาดปลอดภัยและปราศจากสิ่งปนเปื้อนมาแล้ว กระบวนการที่สำคัญต่อไปคือ ผลิตให้ได้มาตรฐานทางวิทยาศาสตร์ และคงคุณค่าของสารสำคัญต่างๆในเลือดจระเข้ให้คงอยู่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคให้มากที่สุด จึงได้เลือกวิธีการทำเลือดจระเข้แห้งด้วยกระบวนการระเหิดแห้งภายใต้ความเย็นจัด (ฟรีซดราย, Freeze Drying) ซึ่งไม่ทำให้โปรตีนในเลือดจระเข้เสียคุณสมบัติ แทนกรรมวิธีดั้งเดิมทั้งการตากแดด การเข้าตู้อบแห้งด้วยความร้อนสูง เมื่อได้เลือดจระเข้แห้งฟรีซดรายที่มีคุณภาพดีแล้ว จึงนำมาทำให้เป็นผงโดยอุปกรณ์ที่สะอาดภายใต้สภาวะที่ปลอดเชื้อ และนำมาบรรจุแคปซูลเพื่อความสะดวกในการรับประทานแทนการทานแบบเดิม